ยัดเงินจริง เปิดการสืบสวนความโปร่งใสการตัดสินมวยสากลในโอลิมปิก
ยัดเงินจริง ฝ่ายสืบสวนเผย มีการโกงผลตัดสินมวยโอลิมปิก 2016 จากกรณีที่สหพันธ์มวยสากลนานาชาติ หรือ สหพันมวยสากลสมัครเล่น เปิดการสืบสวนความโปร่งใสการตัดสินมวยสากลในโอลิมปิก 2016 ยัดเงินจริง ที่กลายเป็นปมปัญหาที่ทำให้ สหพันมวยสากลสมัครเล่น ถูกถอดสิทธิ์การเป็นผู้จัดมวยสากลในโอลิมปิก 2020
ส่งผลให้ สหพันมวยสากลสมัครเล่น ที่ปัจจุบันมี อูมาร์ เครมเลฟ ชาวรัสเซียเป็นประธาน ยัดเงินจริง ตัดสินใจว่าจ้าง ริชาร์ด แม็คลาเรน ทนายชื่อดังชาวแคนาดาพร้อมทีมงานเข้ามารับหน้าที่ตรวจสอบข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตดังกล่าว
ประเด็นที่น่าสนใจอีกหนึ่งประเด็น ก็คือ ในรายงานฉบับนี้ ศาสตราจารย์แม็คลาเรน ยัดเงินจริง ได้มีการเปิดเผยว่า เขาได้พบหลักฐานว่า มีการติดสินบนผู้ตัดสินด้วยวิธีการสุดประหลาด
ซึ่งนั่นก็คือ การยัดเงินราว 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ (3.3 ล้านบาท) ซ่อนอยู่ในหลอดยาสีฟัน และส่งไปให้กรรมการผู้ตัดสินที่พักอยู่ในโรงแรม ในคืนก่อนวันแข่งขันของนักมวยคู่นั้นๆ ขณะเดียวกัน ยังพบว่า มีการข่มขู่กรรมการที่ปฏิเสธที่จะร่วมการทุจริตในครั้งนี้
ไม่เพียงเท่านั้น การสืบสวนยังได้มีการจ้างนักสืบผู้มีประสบการณ์และพยานสำคัญกว่า 40 คน ยัดเงินจริง เพื่อวิเคราะห์เอกสาร, อีเมล และวิดีโอ เกือบสองล้านรายการ เพื่อพิจารณาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะพบว่า มีการดำเนินการทุจริตในลักษณะเช่นนี้อยู่จริง
การสืบสวน ไม่เพียงแค่สืบจากการแข่งขันโอลิมปิก 2016 เท่านั้น แต่ยังลงลึกไปถึงรายละเอียดในการแข่งขันรายการคัดเลือกระดับทวีป และรายการชิงแชมป์โลกที่จัดขึ้นก่อนการแข่งขันโอลิมปิก อีกด้วย ซึ่งก็ได้พบความผิดปกติในการแข่งขัน 11 แมตช์ แต่สำหรับไฟต์ที่ทีมสืบสวนลงลึกในรายละเอียดมีทั้งสิ้น 4 ไฟต์
โดยการแข่งขัน 11 แมตช์นั้น เกิดขึ้นจากข้อสงสัยที่ว่า กรรมการ 3 คน ให้คะแนนนักกีฬาฝ่ายหนึ่งชนะ
แต่หากมีการเพิ่มกรรมการสังเกตการณ์อีก 2 คนเข้าไป จะพบว่านักกีฬาอีกฝ่ายหนึ่งจะเป็นผู้ชนะแทน อย่างเช่น ในไฟต์ที่ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี พ่ายต่อ วลาดิเมียร์ นิกิติน 1-2 เสียง
หากนับคะแนนจากกรรมการ 3 คน จะพบว่านักชกไทยแพ้ 1-2 เสียง แต่หากนับรวมถึงกรรมการสังเกตการณ์อีก 2 คน ที่ไม่ถูกนับรวมกับการตัดสินอย่างเป็นทางการ จะพบว่า ฉัตร์ชัยเดชา จะชนะ 3-2 เสียง
ขณะที่ในรายงานมีการระบุเพิ่มเติมในไฟต์ของฉัตร์ชัยเดชาว่า ผู้ตัดสินในไฟต์นี้ ถูกตั้งข้อสงสัยอยู่หลายคน อย่างเช่น เจอร์แมง โทนี่ ผู้ตัดสินชาวแคนาดา ที่มีการให้คะแนนต่อ นิกิติน ในไฟต์นี้ ที่แปลกกว่าปกติ เพราะในไฟต์นี้ นักวิจารณ์มวยเชื่อว่า ฉัตร์ชัยเดชา น่าจะเอาชนะได้ไม่ยาก แต่คะแนนของกรรมการชาวแคนาดา กลับมาส่วนที่ทำให้ผลการแข่งขันเปลี่ยนไป
ซึ่งขบวนการจากนี้ การสืบสวนของเเม็คลาเรน ยังคงดำเนินต่อไป เพราะนี่ถือเป็นเพียงขั้นตอนแรก สำหรับการเปิดโปงกระบวนการทุจริตครั้งนี้เท่านั้น ระเบิดสุดมัน
ยังไม่ทันขึ้นสังเวียนตามกำหนดก็เดือดซะแล้วสำหรับ ศึกกำปั้นโลกเดิมพันแชมป์ 4 เส้น ระหว่าง ซาอูล กาเนโล่ อัลวาเรซ กำปั้นชาวเม็กซิกัน เจ้าของแชมป์โลก รุ่นซูเปอร์ มิดเดิ้ลเวท 3 สถาบัน กับ คาเล็บ แพลนท์ นักชาวชาวสหรัฐฯ เจ้าของเข็มขัดแชมป์สหพันธ์มวยนานาชาติ
โดยในงานแถลงข่าวที่โรงแรมเดอะ เบเวอร์ลี่ ฮิลตัน, รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นในการเผชิญหน้ากันของสองกำปั้นแชมป์โลก ต่อหน้าบรรดากองทัพสื่อมวลชนที่เดินทางไปทำข่าว
เมื่อ กาเนโล่ ที่กำลังยืนจ้องหน้ากับ แพลนท์ เกิดมีปากเสียงกันถึงขั้นชกต่อยกันกลางงานแถลงข่าว งานนี้ทำให้เจ้าหน้าที่รวมถึงพี่เลี้ยงของทั้งคู่ต้องขึ้นมาห้ามปรามกันเป็นการใหญ่ ก่อนที่งานแถลงข่าวจะดำเนินต่อไปท่ามกลางความตึงเครียด
ซึ่งหลังจบงานแถลงข่าว กำปั้นชาวเม็กซิกัน ที่มีบาดแผลที่ข้อมือซ้าย ได้เปิดใจถึงเหตุการณ์ดังกล่าวกับ อีเอสพีเอ็น ว่า เขาเริ่มก่อน เขาเริ่มพูดหลายสิ่งหลายอย่าง จนสุดท้ายเขาพูดว่า เย็บแม่ จากนั้นผมก็ผลักเขาออกไป แต่เขายังไม่หยุด เดินปรี่เข้ามาปล่อยหมัดใส่ผม ทำให้ผมต้องตอบโต้ก็เท่านั้น
ด้าน คาเล็บ แพลนท์ ที่มีแผลแตกที่ใต้ตาขวา ก็เผยว่าไม่เข้าใจว่าทำไม อัลวาเรซ ถึงหัวร้อนกับการที่ตนใช้คำพูดเกี่ยวกับแม่ เพราะที่ผ่านมาเขาก็เคยใช้กับ เดเมทริอุส อันดราเด้ กำปั้นร่วมวงการเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา
เขาไม่เคยพูดคำนี้เหรอ จู่ๆ คำพูดเหล่านี้ก็มีความหมายแตกต่างไปจากเดิม ไม่เอาน่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยขณะที่ หลุยส์ เดอคูบาส จูเนียร์ ผู้จัดการของ แพลนท์ ได้ออกมาเผยว่า ที่เห็นแผลที่ใต้ตานั้นมันไม่ใช่โดนหมัด มันเกิดจากโดนแว่นตาขีดข่วนเท่านั้น มันไม่ต้องเย็บ หรืออะไรทั้งสิ้น การแข่งขันจะเกิดขึ้นตามกำหนดเดิม และแน่นอนมันจะเป็นสงครมแน่นอน มวย วันนี้