รุ่นใหม่ไฟแรง แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ และนักมวยปล้ำแดนภารตะริตูโฟกาต

รุ่นใหม่ไฟแรง สองสาวนักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน จาก วัน ริกะ อิชิเกะ และ สุนิษา ศรีแสน รวมตัวกันเฉพาะกิจเพื่อวิเคราะห์ศึกที่แฟนกีฬาสายรัดล็อกรอคอยนั่นคือการปะทะกันระหว่างสาวแกร่งแดนสยาม แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ และนักมวยปล้ำแดนภารตะริตู โฟกาต ในการแข่งขันเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รอบชิงชนะเลิศที่จะมีขึ้นในศึก วัน ซึ่งจะยิงสัญญาณสดจากสิงคโปร์ในวันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม 2564

นักสู้สาวลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ขวัญใจชาวไทยตลอดกาล เจ้าของฉายา นางฟ้าแห่งวงการ ได้ชื่อว่าเป็นนักกีฬาหญิงรุ่นบุกเบิกที่ทำให้ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานเป็นที่สนใจมากยิ่งขึ้นในประเทศไทย แม้ปัจจุบันเธอจะห่างหายจากสังเวียนไปบ้าง รุ่นใหม่ไฟแรง แต่เธอยังมีผลงานทางด้านการบันเทิงให้แฟน ๆ ได้หายคิดถึง โดยได้ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับไฟต์นี้ว่า

คู่นี้เป็นคู่ที่ ริกะ ติดตามและตั้งตารอชม รอเชียร์เลยค่ะ รุ่นใหม่ไฟแรง เพราะต่างคนต่างมีความสามารถและจุดแข็งที่แตกต่างอย่างสุดขั้ว

รู้กันดีอยู่แล้วว่า แสตมป์ มีจุดแข็งด้านมวยไทยทั้งหมัด รุ่นใหม่ไฟแรง เท้า เข่า ศอก ส่วน ริตูนั้นก็แข็งแกร่งมาก ๆ เรื่องมวยปล้ำ ริกะ มองว่าคู่นี้คู่คี่สูสีมากจริง ๆ ค่ะ ก็อยากส่งแรงใจเชียร์ตัวแทนสาวไทยคนเดียวของเราให้คว้าเข็มขัดแชมป์มาให้ได้ค่ะ เปิดฉากศึกมวยไทย

สุนิษา ศรีแสน สาวลูกครึ่งไทย-ลาวหัวใจแกร่ง เป็นนักสู้หญิงรุ่นใหม่ไฟแรงที่เคยประมือกับ แสตมป์ มาก่อน ด้วยความที่เธออายุยังน้อย จึงยังเป็นความหวังของไทยที่จะสามารถพัฒนาศักยภาพต่อไปได้ โดยเธอมองว่า รุ่นใหม่ไฟแรง

จุดแข็งที่ทั้งคู่มีเหมือนกันคือความฟิตของร่างกายค่ะ เพราะทั้งคู่มีการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง

แต่ข้อแตกต่างคือริตู เป็นนักมวยปล้ำ การรวบลงพื้นดีมาก เขามีลูกตื๊อสุด ๆ เพื่อนำไปสู่เกมนอน แต่จุดอ่อนคือเกมยืนค่ะ หมัดของเขาค่อนข้างดีแต่ว่าไม่ค่อยเตะคู่ต่อสู้เท่าไหร่

สำหรับ พี่แสตมป์ แน่นอนว่าจุดแข็งคือมวยไทยซึ่งทำให้เกมยืนแข็งแกร่งมาก ส่วนจุดอ่อนนี่แทบไม่เห็นะคะ เพราะสองไฟต์ที่ผ่านมา พี่เขาทำฟอร์มดีมาก แม้ว่าเขาจะอยู่ในจังหวะเสียเปรียบก็สามารถดึงเกมให้กลายเป็นดีได้ แต่ก็ประมาทริตู ไม่ได้ค่ะ ยังไงก็ส่งใจไปเชียร์ พี่แสตมป์ ค่ะ

แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ เผยไฟต์ชิงแชมป์ วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวตหญิง กับนักปล้ำสาวอินเดียริตู โฟกาต ในวันศุกร์ที่ 3 ธ.ค.นี้ ที่สิงคโปร์ มีคู่ซ้อมเพื่อนร่วมค่าย อาทิ ยอดไก่แก้ว, แรมโบ้ ช่วยเสริมแกร่งท่านอน พร้อมยังได้ เจเนลีน โอลซิม นักสู้สาวฟิลิปปินส์อดีตคู่ปรับริตู มาร่วมซ้อม หวังกำราบ ซ้ายคอนโทรล ไม้ตายขอริตู โดยช่วงโค้งสุดท้ายก่อนขึ้นเวที แสตมป์ เผยมั่นใจเต็มร้อยว่าจะสยบคู่แข่งได้และคว้าเข็มขัดกลับบ้านอย่างแน่นอน

ทางด้านการฟิตซ้อมไฟต์นี้ แสตมป์ มีนักสู้เพื่อนร่วมค่าย อาทิ ยอดไก่แก้ว และแรมโบ้ รวมถึง เจเนลีน โอลซิม นักสู้หญิงจากทีมกางเกงแดง ลาไคย์ ฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นคู่แข่งของริตู ในรอบรองชนะเลิศ ลงทุนบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาร่วมซ้อมกับนักสู้สาวไทยที่ค่ายมวยแฟร์เท็กซ์ พัทยา โดย แสตมป์ เปิดเผยว่า เจเนลีน เคยสู้กับ ริตู มาก่อน จึงรู้สไตล์ของนักมวยปล้ำสาวอินเดียคนนี้เป็นอย่างดี ซึ่งต้องบอกว่าในมุมมองของคนดูกับคนที่แข่งขันนั้นไม่เหมือนกัน

ทั้งนี้ เจเนลีน ให้ข้อมูลกับเทรนเนอร์ของ แสตมป์ ว่าริตู มีจุดแข็งคือ ซ้ายคอนโทรล ซึ่งถือเป็นไม้ตาย โดย ริตู จะพยายามเข้าควบคุมทางด้านข้างด้วยการจับล็อก หากพยายามหนีก็จะยิ่งบีบมากขึ้นเรื่อย ๆ และทำให้คู่แข่งเหนื่อย ตรงนี้ตัว แสตมป์ เองพร้อมด้วยทีมงานสตาฟเทรนเนอร์ได้ทำการบ้านรอรับมือบนเวทีแล้ว

ส่วน ยอดไก่แก้ว ซึ่งเป็นนักกีฬา วัน และเป็นรุ่นพี่ร่วมค่ายได้เข้ามาช่วยซ้อมกับ แสตมป์ ในไฟต์นี้ด้วย โดยลักษณะการซ้อม ยอดไก่แก้ว จะใช้กำลังโถมแรงดันตัว แสตมป์ เข้าไปชิดติดกรง เปรียบเสมือนว่าเมื่อถูกริตู กดให้ติดกรง แสตมป์ จะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร เป็นการช่วยให้ แสตมป์ ได้เรื่องของพละกำลังที่มากขึ้น

นอกจากนี้ยังได้ แรมโบ้ นักกีฬาชายเพื่อนร่วมค่ายที่มีรูปร่างและน้ำหนักพอๆกับ แสตมป์ มาช่วยซ้อมปล้ำด้วย เนื่องจากการซ้อมกับผู้ชายจะทำให้ แสตมป์ ต้องเบียดแรงสู้มากกว่าซ้อมกับผู้หญิง เพราะไฟต์นี้ แสตมป์ จำเป็นต้องใช้กำลังมาก เมื่อต้องเจอกับนักมวยปล้ำหญิงจากอินเดียที่ตั้งใจมาเทกดาวน์เธอแน่ๆ

ความมั่นใจนาทีนี้ แสตมป์ มั่นใจเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เลยค่ะว่าจะเอาชนะและคว้าแชมป์กลับบ้านได้อย่างแน่นอน เพราะหนนี้หนูและทีมงานผู้ฝึกสอนเตรียมตัวฟิตซ้อมมาดีมาก มีการปรับแก้ทุกจุด ความหนักใจไม่มีเลย หากสู้กันวงนอก หนูมีแข้งมีศอกเป็นอาวุธเตรียมสาดอยู่แล้ว ส่วน ริตู เขามาในสไตล์มวยปล้ำ ถ้าจะพุ่งเข้ามาล็อกขาก็ต้องฝ่าลูกแทงเข่าแหลม ๆ และลูกเตะให้ได้ ไฟต์นี้อยากให้กองเชียร์ติดตามให้กำลังใจกันเยอะ ๆ หนูจะไม่ทำให้กองเชียร์ผิดหวังค่ะ แสตมป์ กล่าวทิ้งท้าย มวย วันนี้