วิธีเอาชนะ คนดู 2 พันคน ไม่มีเสียงเชียร์ เวทีเล็ก ๆ และไม่มีค่าตัวมอบให้ นี่คือสิ่งที่ไม่คู่ควรกับตำนานเฮฟวี่เวตอย่าง ไมค์ ไทสัน เลย

วิธีเอาชนะ คนดู 2 พันคน ไม่มีเสียงเชียร์ เวทีเล็ก ๆ และไม่มีค่าตัวมอบให้ นี่คือสิ่งที่ไม่คู่ควรกับตำนานเฮฟวี่เวตอย่าง ไมค์ ไทสัน เลย อย่างไรก็ตามสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดเกิดขึ้นในวันแรกที่ไทสัน เดินขึ้นเวทีนักชกอาชีพ ชายที่สูงแค่ 178 เซ็นติเมตร จนหลายคนคิดว่าน่าไปทำน้ำหนัก

และเอาดีในรุ่นครุยเซอร์เวตมากกว่า กลับสร้างอิมแพ็กต์ให้วงการมวยโลกไปตลอดกาล ในวันเเห่งการเริ่มต้นแค่ไม่ถึง 1 ยก ผู้คนต่างเข้าใจได้ในทันทีว่า “ปีศาจ” ได้ปรากฏตัวในสังเวียนเฮฟวี่เวตเเล้ว ติดตามเรื่องร่าวก่อนจะดังและก่อนที่จะได้เข็มขัดเเชมป์โลกเฮฟวี่เวตเส้นแรกของไทสัน

ได้ที่นี่กับ เมน สแตนด์ สัญชาติญาณ และการฆ่าด้วยสายตา กีฬาชกมวยเป็นกีฬาที่ดูง่ายมาก ผู้ชายสองคนชกกันบนเวที คนไหนโดนร่วงลงไปนอนนับสิบก่อนคนนั้นก็แพ้ ผู้ขึ้นชกไม่สามารถให้ใครช่วยได้มีแต่ตัวของเขาเองเท่านั้น เพราะมันคือการแข่งขันแบบ 1 ต่อ 1

นอกจากจะใช้พละกำลังและทักษะในการเข้าห้ำหั่นกันเเล้ว “ความรู้สึก” คือสิ่งที่สามารถทำให้สามารถตัดสินผลการแข่งขันได้ตั้งแต่ยังไม่ได้ชนนวมกันเลยด้วยซ้ำ และสิ่งที่แสดงความรู้สึกออกมาได้ดีและโกหกกันไม่ได้คือ “สายตา” ไทสันคือนักชกที่มีสายตานักฆ่าฉายแสงมาแต่ไกล

เขาต่างจากยอดมวยเฮฟวี่เวตรุ่นก่อนอย่าง มูฮัมหมัด อาลี ที่มาในรูปแบบของผู้ไร้เทียมทาน สายตาของ อาลี แสดงออกถึงความเหยียดหยามนักชกฝั่งตรงข้าม และมันคือเกมจิตวิทยาในรูปแบบหนึ่งของเขา ขณะที่ไทสัน เขาไม่ดูถูกใคร เขาแค่จ้องเข้าไปในดวงตาคู่นั้นของคู่ต่อสู้

พร้อมกับส่งสัญญาณเตือนว่า วินาทีแห่งการกระหน่ำฝ่ายเดียวกำลังจะเริ่มขึ้นทันทีที่เสียงระฆังดัง ไทสันบอกว่าลักษณะการมองคู่ต่อสู้ของเขาไม่ใช่การข่มขวัญ ดูถูก หรือเหยียดหยาม มันไม่ใช่แท็คติก แต่มันคือสัญชาตญาณ ตั้งแต่เขาจำความได้จากการต่อสู้ข้างถนนในวัยเยาว์

ภายใต้การฝึกฝนและผลักดันของ กัส ดามาโต ครูมวยที่เปรียบเสมือนพ่อ เป็นผู้ที่ปลูกฝังให้เขาเป็นแบบนี้มาตลอด “ที่นั่นผมยังชกทุกคนที่ขวางหน้า ผมชกนักเรียน ผมชกการ์ดของโรงเรียน ใครที่มันกล้ายุ่งกับผม ผมจะรอเวลาเพื่อจัดการมัน” ไทสันว่าถึงวัยเด็กของเขา

ไทสันเข้าไปฝึกกับ กัส ตอนอายุ 12 ปีด้วยความเป็นเด็กที่เรียกว่ากร้านโลกในระดับหนึ่ง คู่แข่งของ ไทสันไม่ได้จะหากันง่าย ๆ ไม่ค่อยมีเด็กรุ่นเดียวกันอยากจะชกกับเขา ไทสันจึงได้แต่ซ้อมจนกระทั่งอายุ 14 ปี จนทุกอย่างสุกงอมดีเเล้ว การปล่อยปีศาจออกมาอาละวาดก็เริ่มขึ้น

ณ เวลานั้น เท็ดดี้ แอตลาส โค้ชพี่เลี้ยงของไทสัน มองว่าแค่สนามซ้อมไม่สามารถเอา ไทสันอยู่แล้ว เขาจึงต้องการพาไทสันไปชกไฟต์อย่างเป็นทางการ เพื่อลองของให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยว่าไทสัน จะเจ๋งแค่ไหนเมื่อต้องชกในสถานการณ์จริง ที่มีเดิมพันจริง ๆ ทว่าความต้องการของ เท็ดดี้ โดนเบรก

เพราะไม่มีใครยอมรับไทสัน ณ เวลานั้น เนื่องจากอายุของเขาน้อยเกินเกณฑ์สำหรับการเป็นนักมวยสากลสมัครเล่น ทุกคนกลัวว่า ไทสันจะโดนซัดร่วงไปเสียก่อน และสำหรับเด็กอายุไม่ถึง 14 ปีมันอันตรายเกินไป ดังนั้น เท็ดดี้ จึงออกอุบายหลอกทุกคนว่าไทสัน อายุ 18 ปี เขาเดินทางไปยังทุกที่ที่มีการแข่งขัน

และหลังจากนั้นทุกคนในเวทีสมัครเล่นก็ต้องพบกับความฮือฮา เมื่อไทสัน ได้ลองขึ้นชกเป็นครั้งแรก เขาได้ชกกับเด็กอายุ 17 ปี และส่งเด็กคนนั้นลงไปกอง “อีกฝ่ายกำลังมองหาวิธีที่จะเล่นไทสัน ให้น่วม แต่หลังจากระฆังดังได้ 1 นาที ไมค์ ก็ทำให้เด็กคนนั้นรู้ว่าสิ่งที่ตนเองหวังได้จบลงไปแล้ว

เขาน็อกเด็กนั่นด้วยหมัดรัวดัง ปั้ง ปั้ง ปั้ง! สามหมัดซ้อน ก่อนซัดด้วยหมัดซ้ายอีก 1 ที หัวของเจ้าเด็กนั่นเอียงซ้ายเอียงขวาเดินเซตกเวทีไปเลย นั่นแหละ ตำนานเด็กนรกของไทสัน จึงได้ถือกำเนิดขึ้น” เท็ดดี้ แอตลาส กล่าวในช่อง พอดคาสต์ ของเขา ขณะที่ไทสัน บอกว่าทุกอย่างหล่อหลอมเขาขึ้นมา

ความกลัว คือจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ของเขา และเขารู้ว่าวิธีจะเอาชนะมันคือคุณต้องแข็งแกร่งกว่า การชกมวยหากเดินขึ้นเวทีไปด้วยความไม่มั่นใจ นั่นเท่ากับว่าคุณมีโอกาสแพ้สูงมาก เพราะแม้กระทั่งตัวคุณเองยังไม่ชนะใจตัวเองเลยด้วยซ้ำ “ทุกครั้งที่ผมเดินออกจากห้องแต่งตัว ไม่มีครั้งไหนที่ผมไม่กลัว

ผมกลัวที่จะถูกล้อเลียน, กลัวที่จะพลาดแล้วถึงตาย และกลัวทุก ๆ อย่างที่มีโอกาสเกิดขึ้น แต่เมื่ออยู่บนเวทีและมีแสงไฟส่องลงมา ผมคือคนที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ เพราะผมรู้ว่าผมฝึกหนักมาเพื่อสิ่งนี้ขนาดไหน ผมเก่งกว่าเขา (คู่แข่ง) ผมฝึกมาหนักกว่า ผมมีโอกาสจะชนะมากกว่า”

“ก่อนชกทุกครั้ง ผมเข้านอนและฝันถึงการเอาชนะเสมอ เมื่ออยู่บนเวทีผมคือพระเจ้าที่ไม่มีใครเทียบได้ และไม่มีทางที่ผมจะแพ้ให้กับใครสักคน” “หากคุณสังเกตเวลาที่ผมเดินบนเวทีก่อนระฆังดัง ผมจะมองไปที่คู่ต่อสู้โดยไม่ละสายตาเลยสักครั้ง ผมเห็นหน้าของพวกเขา

และอดทนรอไม่ไหวที่จะเอาหมัดของผมไปประทับตรงนั้น ผมจะมองพวกเขาจนทะลุ แม้พวกเขาจะพยายามหลบสายตาผม และถ้าใครบางคนพยายามมองมาที่ตาผมและใช้สายตาข่มขู่ผมกลับ ผมจะดีใจมากเพราะผมจะได้ทำลายจิตวิญญาณนักสู้ในดวงตาคู่นั้นให้มอดไหม้ลงในทันที”

ไทสันกล่าวใน พอดคาสต์ ของเขาว่าด้วยเรื่อง “การฆ่าด้วยสายตา” นี่คือความคิดของเด็กที่อายุแค่ 14 ปี คุณยังจะแปลกใจอยู่ไหมที่วันนี้ยังหานักชกเฮฟวี่เวตที่ต่อยได้เร้าใจ รวดเร็ว และหนักหน่วงอย่างไทสัน ไม่ได้ นี่คือความแตกต่าง “สัญชาตญาณนักฆ่า”

คือคำตอบที่ทำให้ชีวิตนักชกของไทสัน ทะยานไปข้างหน้า “งานที่เขาทำ เหมาะกับตัวตนที่เขาเป็น” แค่นี้ก็ไม่มีใครหยุดเขาได้เเล้ว จากต่อยข้ามรุ่น จนถึงเวทีอาชีพไทสัน เทิร์นโปรตอนอายุ 18 ปี หรือ 4 ปีหลังจากการโกหกว่าเขาอายุ 18 ปี ฟังเเล้วอาจจะงง แต่หากจะบอกให้เข้าใจง่าย ๆ

คือตัวของเขาพร้อมสำหรับการชกอาชีพมาตั้งนานแล้ว เพียงแต่โดนกฎเรื่องของอายุกดไว้เท่านั้น ในช่วงหลังจากเทิร์นโปรสำเร็จ ไทสันดีใจมาก เขาไม่เคยคิดว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน เขาแค่สนุกกับการเอาชนะบนเวที ที่สำคัญเขาเบื่อกับการไล่ชกเด็กรุ่นเดียวกันที่ซ้ำซาก

ดังนั้นเมื่อเทิร์นโปรได้ไทสัน ยอมทำทุกอย่างให้ได้ชกไฟต์เเรก วิธีเอาชนะ เพราะเขาโดนดองไฟต์อยู่หลายเดือนจนกระทั่งเขาต้องยอมเสียเปรียบให้กับโปรโมเตอร์เพื่อโอกาสเปิดตัว และเหยื่อของเขามีชื่อว่า เฮ็คเตอร์ เมร์เซเดส “ผมแทบไม่ได้ค่าตัวในการชกไฟต์นั้นหรือในช่วงเปิดตัวเลย

ในไฟต์แรกผมถึงขั้นต้องเสียเงินให้กับโปรโมเตอร์ 450 ดอลลาร์ และได้การันตีค่าตัวกลับแค่ 500 ดอลลาร์เท่านั้น 50 ดอลลาร์คือเงินที่ผมต้องหารกับพี่เลี้ยงถ้าผมไม่ชนะ” ไทสันเล่าถึงเบื้องหลังก่อนเป็นนักชกเงินหมื่นล้าน ไฟต์ระหว่างไทสัน ปะทะ เมร์เซเดส

วิธีเอาชนะ เกิดขึ้นที่สังเวียนเวทีมวยชั่วคราวศูนย์การค้า พลาซ่า คอนเวนชั่น ที่ นิวยอร์ก โดยคู่นี้จะขึ้นชกในลำดับแรก ๆ ตามหลักการตลาดของวงการมวยที่จะเอาคู่เล็กขึ้นชกเรียกน้ำย่อยไปก่อนแล้วเก็บคู่ใหญ่ไว้ท้ายสุดเพื่อเรียกคนดูให้เกาะกับการแข่งขันจนนาทีสุดท้าย ตอนนั้นมีคนเข้ามาในฮอลล์ไม่ถึง 2 พันคนเลยด้วยซ้ำ มวย วันนี้

วิธีเอาชนะ

ในวันแรกที่ไทสัน เดินขึ้นเวทีนักชกอาชีพ ชายที่สูงแค่ 178 เซ็นติเมตร

วิธีเอาชนะ ไม่มีเสียงเชียร์เพราะไม่มีใครรู้จักเขา และเขาเริ่มทำตามสิ่งที่เขาเล่าทุกอย่าง การชกครั้งนี้ไม่ต่างจากวัยเด็กเลย เขารู้ว่าเขาจะชนะ เพียงแต่ว่ามันเป็นธรรมดาของไฟต์แรกที่จะต้องประหม่ากันบ้าง เพราะการเปิดหัวที่ดีนำมาสู่เส้นทางที่สดใส และหากเขาเปิดหัวแพ้

เขาก็อาจจะต้องจ่ายเงินเพื่อขึ้นชกในจำนวนที่แพงกว่าเดิม แทนที่จะเป็นฝ่ายทำเงินเสียเอง “คืนนั้นก่อนขึ้นชกผมประหม่ามากและผมเชื่อว่ามันเป็นธรรมชาติของมนุษย์สำหรับการทำอะไรสักอย่างเป็นครั้งแรก ในใจผมเชื่ออยู่เสมอว่าผมจะเอาชนะไอ้หมอนั่นได้ ยิ่งเมื่อขึ้นเวทีเห็นหน้าและมองเข้าไปในตาเขา

วิธีเอาชนะ ความประหม่าที่มีก็ไม่เหลืออีกเเล้ว” ไทสันว่าถึงการชกกับ เมร์เซเดส ที่เป็นรุ่นพี่เขา 1 ปี จะเรียกว่าการปะทะกันก็คงไม่ถูกนั้นเพราะไทสัน บอกยี่ห้อของตัวเองตั้งแต่ไฟต์แรก ระฆังดัง เดินเข้าหา และกระหน่ำหมัด “ซ้าย ขวา ซ้าย” รัว ๆ จนนับไม่ทันว่าเขาจ้วงไปทั้งหมดกี่หมัดใน 10 วินาทีแรก

เมร์เซเดส หน้าเหวอและเปลี่ยนท่าทีทันที จากที่เคยจะตั้งใจบุกกลับกลายเป็นว่าเขาต้องเล่นรอจังหวะ เพราะรู้ว่าไทสัน หนักและไวกว่ามาก เพียงแต่ต่อจะให้เอาแท็คติกจากไหนมากางตำราก็คงไม่ไหวไทสัน จิ้มหมัดซ้ายใส่หน้าในจังหวะที่ เมร์เซเดส กำลังจะเดินเข้าหา โบ๊ะเดียวเท่านั้น เขาถอยกราดไปตั้งหลัก

แต่ไม่ทันเเล้ว ไทสันเหมือนกับสัตว์นักล่าที่รู้ว่าเมื่อศัตรูกำลังกลัวเขาจะปิดฉากทันที ไทสันเดินประชิดต่อย เมร์เซเดส จนตัวงอติดกับเชือกและไม่หยุดการจ้วงง่าย ๆ ทุก ๆ การต่อยของไทสัน ทะลุการ์ดจน เมเซร์เดส เดินเอียง เสียงคนดูที่มารอดูคู่เอกเริ่มจะดังขึ้นเเล้ว เพราะไม่มีใครคิดว่ามวยเด็กคู่นี้จะมีของดีมาให้ดู

ถ้าเป็นมวยไทยเจ็ดสีก็ต้องเรียกว่าคนดูเริ่มออกแข้งออกขาตามจังหวะที่ไทสัน ชก เสียง “เฮ้! เฮ้! เฮ้!” ตามจำนวนหมัดดังขึ้นจากแฟนมวย ตอนนี้ไม่ใช่การชกแล้ว แต่มันเหมือนเป็นการเอนเตอร์เทนคนดูมากกว่า ตั้งการ์ดหนาขนาดไหนก็เอาไม่อยู่ เมร์เซเดส ลงไปนอนให้กรรมการนับ

แม้จะลุกขึ้นมาได้แต่ก็ถึงช่วงที่กรรมการนับถึง 10 พอดี เขากุมไปที่ซี่โครงและพบภายหลังว่าซี่โครงของเขาหักเป็นที่เรียบร้อย เรียกได้ว่าไฟต์นั้นคือการเปิดตำนานของไทสัน เลยก็ว่าได้ โปรโมเตอร์ถูกอกถูกใจ จ่ายเงินเขาเพิ่มอีก 500 เหรียญ เขาแบ่งให้เทรนเนอร์จำนวนหนึ่ง

และเอาเข้าธนาคารไป 350 เหรียญ พกติดตัวไว้อีก 100 เหรียญ ได้ชก ได้ระบายอารมณ์ แถมยังได้เงินอีกด้วย นี่คือต้นไม้ที่เลือกโตได้ถูกกระถางอย่างแท้จริง ชิงแชมป์โลกไปเลยเเล้วกัน แม้จะเป็นการชกที่ไม่มีเดิมพันอะไรมากมาย แต่ไทสัน เปิดโลกมวยเฮฟวี่เวตไปเรียบร้อย

วิดีโอการชกของเขาโดนส่งไปทั่วอเมริกา และนักข่าวสายมวยหลายคนชักจะสนใจเรื่องราวของ “ไอออน ไมค์” ขึ้นมาเเล้ว ไทสันไม่ได้จบความมันแค่ตรงนั้น แต่ละไฟต์ที่ตามมา ไทสันเริ่มโชว์ท่าไม้ตายออกมา ในไฟต์ที่ 2 ที่ชกกับ เทรนท์ ซิงเกิลตัน เขาอาชนะในยกแรกได้อีกครั้ง

และ “ฮุกซ้ายในตำนาน” ได้เผยสู่สายตาชาวโลกในไฟต์นี้ ต่อเนื่องมาด้วยไฟต์ที่ 3 กับ ดอน ฮัลพิน ที่น็อกได้ในยกที่ 4 แม้จะตึงมือไปบ้าง แต่ก็เป็นการโชว์ไม้ตายอีกชุดที่ชื่อว่า “Peek a Boo” สไตล์ ซี่งเป็นท่าที่ไทสัน เอาไว้ใช้เล่มเกมรับผสมเกมบุก ลักษณะคือใช้การเอี้ยวตัวหลบหมัดคู่ต่อสู้

และใช้ประโยชน์จากการเอี้ยวตัวนั้นเสริมแรงใส่หมัดของตัวเองแทนที่จะหลบเฉย ๆ กลายเป็นการเหวี่ยงหมัดด้วยองศาที่กว้างกว่าเดิม ซึ่งท่านี้กลายเป็นซิกเนเจอร์ของไทสัน ที่โลกจดจำได้มากที่สุดเลยก็ว่าได้ไทสัน ปล่อยของและโชว์ความอึดในแบบเหนือมนุษย์ปี 1985 เขาขึ้นชกทั้งหมด 15 ไฟต์

ขณะที่ปี 1986 เขาขึ้นชกอีก 11 ไฟต์ เรียกได้ว่านักมวยยุคปัจจุบันเทียบไม่ติดเลยทีเดียว ค่าเฉลี่ยการชกมากกว่า 1 เดือนต่อ 1 ไฟต์ด้วยซ้ำ ในขณะที่นักชกอย่าง ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ในช่วงที่ยังไม่รีไทร์นั้น ปีหนึ่งจะขึ้นชกป้องกันแชมป์สักไฟต์ ดังนั้นเราจะเห็นได้ถึงสมรรถนะที่สมบุกสมบันของไทสัน

และความเป็นปีศาจได้ชัดเจนแบบสุด ๆ โดยในไฟต์ที่ 11 ของปี 1986 คือไฟต์ที่ส่งเขาเป็นเเชมป์โลก ในไฟต์นั้นเขาจะต้องเจอกับ เทรเวอร์ เบอร์บิก เเชมป์โลกที่มีฝีไม้ลายมือดีที่สุดเท่าที่ไทสัน เคยเจอมาในเวลานั้น โดยตัวไทสัน เลือกซื้อเกมจิตวิทยาอีกครั้ง

ด้วยการยอมจ่ายค่าปรับด้วยการสวมกางเกงสีดำ ถึง 5,000 ปอนด์ เพราะในตอนแรกฝ่ายจัดได้ห้ามไว้เพราะให้สิทธิ์เบอร์บิกที่เป็นแชมป์ได้เลือกสีกางเกงก่อน สื่อบอกว่านี่จะเป็นการตัดสินของยุคสมัยมวยเฮฟวี่เวต หาก เบอร์บิก ชนะ แสดงว่านักมวยรุ่นใหม่คงยากที่จะขึ้นมาเหนือน้ำได้

เพราะไทสัน ถือเป็นมวยยุคใหม่ที่เก่งที่สุดเเล้ว กลับกันหาก ไทสันชนะ นี่จะเป็นไฟต์ที่นักมวยรุ่นเก่าต้องยอมรับความจริงว่า คลื่นลูกใหม่ถล่มพวกเขาเเล้ว และยากที่จะทวงคืนได้หากปล่อยให้ไทสัน เป็นเเชมป์โลก วิธีเอาชนะ ศึกนี้จึงถูกเรียกว่า “จัดจ์เมนต์เดย์” หรือ “วันพิพากษา ” นั่นเอง

ไทสันปรากฏตัวเหมือนกับพ่อมดดำคลุมหน้าคลุมตา ตั้งสมาธิในห้องแต่งตัว และเดินขึ้นมาด้วยสายตาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเจอเเชมป์โลกหรือเด็กอายุ 18 ปี ความคิดของไทสัน คือขยี้เท่านั้น แม้เเต่ เบอร์บิก ที่พยายามมองตาสู้และแสดงตัวว่าไม่กลัวไทสัน ก็ไม่อาจจะเปลี่ยนแแปลงผลการแข่งขันได้

เบอร์บิก โดนชกตั้งแต่เริ่มยก 1 และตั้งตัวไม่ทันกับเด็กนรกอย่างไทสัน เขาพยายามต้านและตอบโต้ตามดีกรีเเชมป์ แต่หมัดที่เหวี่ยงไปกลับไปโดนหลังหัวไทสัน ซึ่งผิดกติกา จะบังเอิญหรือตั้งใจไม่มีใครรู้ แต่การชกที่ด้านหลังหัวมีโอกาสที่จะทำให้เกิดอาการมึนและเสียการทรงตัวได้

แต่ไทสัน ที่หนอกคอกว้างอย่างกับวัวไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย กลับกลายเป็นการทำให้ไทสัน สนุกกว่าเดิมด้วยซ้ำ เมื่อยก 2 เริ่มขึ้น ไทสันเดินเข้าหาทันทีและทุบใส่ เบอร์บิก ด้วยหมัดอันทรงพลังไม่รู้กี่ครั้ง เบอร์บิก พยายามปัดป้อง แต่เมื่อเงยหน้ามาได้ก็ต้องเจอกับหมัดชุด 4 ดอก ตั้บ ๆ ๆ ๆ!

เบอร์บิก เซจนร่วงเวที แต่ก็ยังมีสปิริตลุกขึ้นมาสู้ต่อ ซึ่งในความจริงเขาควรยอมแพ้ตรงนั้นไปจะดีกว่า เพราะเมื่อกรรมการนับเเปดและเริ่มให้ชกต่อไทสัน ก็เดินเข้าหาและปิดเกมภายในเวลารวมทั้งหมด 2.35 นาที ด้วยขวาที่ลำตัว และจบงานด้วยไม้ตายก้นหีบอย่างฮุกซ้ายที่หัว

เบอร์บิก ลุกแล้วล้ม ลุกเเล้วล้ม 2 รอบติดต่อกัน ผู้ตัดสินในวันนั้นเห็นมามากพอเเล้ว และสั่งยุติการชกให้ไทสัน กลายเป็นแชมป์สมัยแรกด้วยวัยเพียง 20 ปีเท่านั้น เขาคือแชมป์โลกที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ แม้กระทั่งทุกวันนี้ก็ยังไม่มีนักมวยคนไหนทำลายสถิติดังกล่าวลงได้

“ผมมาที่นี่และมั่นใจมากว่าผมจะไม่ยอมลงจากเวทีหากปราศจากแชมป์โลก ทุกครั้งที่ผมเขวี้ยงหวัด จงรับรู้เอาไว้ว่ามันอันตรายและแม่นยำมาก นาทีนี้ผมคือคนที่เก่งที่สุดในโลก และไม่มีใครที่จะเอาชนะผมได้” ไทสันกล่าวหลังรับเข็มขัดเเชมป์อย่างยิ่งใหญ่ และจากนั้นเรื่องราวต่าง ๆ มากมายก็เกิดขึ้นกับเขา

และทำให้เขาเป็นขวัญใจคอมวยสากลตลอดกาลจนถึงวันนี้ จากเด็กอายุ 14 ปี ที่ชกกับรุ่นพี่ที่อายุ 18 ปี แบบไม่เคยเกรงกลัว และการยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ขึ้นไฟต์ชิงแชมป์โลกตั้งแต่อายุ 20 ปี แถมยังคว้ามันมาครองได้สำเร็จ เราเห็นอะไรจากเรื่องนี้บ้าง ไมค์ ไทสันคือคนที่เชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก

และพรสวรรค์ที่เขามีก็ถูกขัดเกลาอยากถูกวิธี ซึ่งท้ายที่สุดไทสัน สอนให้ทุกคนเชื่อว่า “ความกลัว” คือบ่อเกิดแห่งความพ่ายแพ้ “ความไม่มั่นใจ” จะปิดโอกาสที่จะทำให้คุณเป็นผู้ชนะ เมื่อถึงวันที่ตัวเองมีความพร้อมจะลงมือทำอะไรสักอย่าง

วิธีเอาชนะ ขอจงทุ่มให้สุดตัวและไปให้สุดทาง และความสำเร็จจะมาเยือนไวในชนิดที่คุณอาจจะไม่ทันตั้งตัวรับมันแบบที่ไทสัน เป็นก็ได้ บุกนิวยอร์ก