สาวแกร่งเลือดซามูไร แฟนกีฬามักมีภาพจำของสาวหน้าตาน่ารักสดใส สไตล์สายแบ๊ว

สาวแกร่งเลือดซามูไร หากเอ่ยชื่อ อิตซูกิฮิราตะนักสู้สาวจากแดนซามูไร เชื่อได้ว่าแฟนกีฬามักมีภาพจำของสาวหน้าตาน่ารักสดใส สไตล์สายแบ๊ว

แต่ใครจะรู้ว่าในชีวิตจริงในฐานะนักสู้นั้น อิตซูกิเคยผ่านบททดสอบสุดหฤโหดมานับครั้งไม่ถ้วนกว่าจะมาเป็นดาวรุ่งขวัญใจแฟนกีฬาทั่วโลกในปัจจุบัน

วันนี้ เราจะพาทุกคนย้อนกลับไปดูว่า อิตซูกิต้องพบเจออะไรมาบ้างตลอดเส้นทางนักสู้ของเธอ สาวแกร่งเลือดซามูไร

อิตซูกิเกิดและเติบโตที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เธอเริ่มหัดดูการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่เด็กกับพ่อและพี่ชาย และเข้าคลาสฝึกวิชายูโดตั้งแต่อายุ 6 ขวบ โดยมีความใฝ่ฝันว่าจะเป็นนักกีฬาโอลิมปิกให้ได้ และด้วยความที่โค้ชและพ่อของเธอนั้นเข้มงวดในการฝึกมาก เธอจึงต้องไว้ผมสั้น และถูกพูดกรอกหูเป็นประจำว่าการแข่งขันทุกนัดถือเป็นเรื่องจริงจัง สาวแกร่งเลือดซามูไร

การฝึกยูโดอย่างเข้มข้น 6 วันต่อสัปดาห์เยี่ยงนักกีฬาอาชีพ เป็นเสมือนดาบสองคม ด้านหนึ่งมันส่งผลให้ อิตซูกิเป็นเด็กหญิงที่มีความแน่วแน่และมุ่งมั่นเกินเด็กหญิงวัยเดียวกัน แต่อีกด้านหนึ่งมันดูเหมือนจะเกินขีดจำกัดของร่างกายจนเกินจะรับไหว

ในวัย 15 ปี สมัยที่เธอกำลังเริ่มเรียนชั้นมัธยมปลาย อิตซูกิเริ่มมีปัญหาที่หัวเข่าซึ่งกลายเป็นความเจ็บปวดร้ายแรงถึงขั้นต้องจบชีวิตนักกีฬา เธอจึงตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดและพักรักษาตัวนานร่วมปี โดยหวังว่าจะกลับมาเป็นปกติ สาวแกร่งเลือดซามูไร และสานฝันการเป็นนักกีฬาโอลิมปิกต่อไป

แต่แล้วเธอก็ต้องอกหักซ้ำสอง เมื่อได้รับบาดเจ็บซ้ำที่หัวเข่าเหมือนเดิมจนต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น สาวแกร่งเลือดซามูไร ทำให้ความฝันเริ่มหลุดลอย ถึงขั้นกรามหัก

อิตซูกิเริ่มคิดที่จะหันหลังให้ศิลปะการต่อสู้ แต่ด้วยแรงสนับสนุนจากครอบครัว และไฟในหัวใจที่ยังไม่สิ้นเชื้อ เธอจึงยังมองเห็นความหวังลางๆ หลังจากที่ได้พบกีฬาชนิดใหม่ที่ดูน่าสนใจอย่าง การต่อสู้แบบผสมผสาน เธอจึงเปิดใจที่จะลองกีฬาชนิดนี้ และได้เริ่มต้นฝึกอย่างจริงจังหลังจากหายดี

อิตซูกิใช้พื้นฐานยูโดต่อยอดในกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสานจนครูผู้ฝึกสอนเห็นแววและจับให้เธอลงแข่งครั้งแรกในการแข่งขัน ซึ่งเป็นรายการแข่งขันการต่อสู้แบบผสมผสานระดับสมัครเล่นในรูปแบบเรียลลิตีโชว์ของประเทศญี่ปุ่น

แม้เธอจะเพิ่งเริ่มต้นผันตัวมาจับกีฬานี้ได้เพียงไม่กี่เดือน แต่ อิตซูกิก็พาตัวเองลอยลำสู่เส้นชัย ด้วยการซับมิสชันคู่แข่งได้ถึง 3 คนรวด ขึ้นแท่นแชมป์รายการนี้ในที่สุด

สาวแกร่งเลือดซามูไร

ทักษะการต่อสู้ที่เกินตัวของ อิตซูกิไปเตะตาผู้จัดการแข่งขันระดับโลกอย่าง วัน แชมเปียนชิพ และเริ่มต้นสั่งสมความสำเร็จในเวทีระดับโลก

อิตซูกิเปิดตัวไฟต์แรกใน วัน แชมเปียนชิพ เมื่อเดือนมิถุนายน 2562 ที่เซี่ยงไฮ้ ได้อย่างสวยงาม หลังปิดเกมคู่แข่งขันด้วยการซับมิสชันตั้งแต่ยกแรก

จากนั้น อิตซูกิก็แรงไม่หยุดโดยกวาดชัยเหนือนักสู้สาวไทย-ญี่ปุ่น ริกะ อิชะเกะ, นักสู้สาวจากนิวซีแลนด์ ไนเรน ครอว์ลีย์ และล่าสุดในสนาม เวิลด์กรังด์ปรีซ์รุ่นอะตอมเวตหญิง เธอก็จัดการนักสู้สาวสายแข็งจากฝั่งอเมริกา อลิส แอนเดอร์สัน สั่งสมสถิติชนะ 4 ไฟต์ไร้พ่ายบนเวทีอย่างงดงาม

นักสู้สาวแกร่งวัย 22 ปี กำลังจะลงศึกครั้งใหญ่อีกครั้ง โดยมีนัดฟาดปากกับ ริตูโฟกาตนักมวยปล้ำสาวชาวอินเดียในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศของทัวร์นาเมนต์ครั้งประวัติศาสตร์ เวิลด์กรังด์ปรีซ์รุ่นอะตอมเวตหญิง ที่จะมีขึ้นในศึกในวันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม 2564

ริตูโฟกาตนักมวยปล้ำสาวขวัญใจแดนโรตี หนึ่งใน 4 สาวแกร่งที่ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศการแข่งขันเวิลด์กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวตหญิง มั่นใจมีทีเด็ดเผด็จศึกนักสู้สายแบ๊วจากแดนอาทิตย์อุทัย อิตซูกิฮิราตะในศึกที่จะถ่ายทอดสดในวันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม 2564

ก่อนหน้านี้ ริตูถูกตีตราว่าเป็นมวยรองและไม่คู่ควรในการลงแข่งขันครั้งนี้เพราะยังอ่อนด้อยประสบการณ์ แต่หลังจากที่เธอพลิกเอาชนะ เมง โบ นักสู้สาวจีนหนึ่งในตัวเต็งจากรอบแรกของการแข่งขันเวิลด์กรังด์ปรีซ์รุ่นอะตอมเวตหญิง เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา ริตูก็เป็นที่จับตาจากคู่ต่อสู้คนอื่นๆ รวมทั้งแฟนกีฬาจากทั่วโลกขึ้นมาทันที

โดยในรอบรองชนะเลิศนี้ ริตูได้รับการโหวตจากแฟนกีฬาให้เจอกับ อิตซูกิฮิราตะนักสู้สาวลุคคิกขุสดใสขวัญใจหนุ่มๆ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าแม่เกมนอน โดยมีพื้นฐานมาจากกีฬายูโดที่เธอช่ำชอง และเป็นเจ้าของสถิติ 8 ไฟต์ไร้พ่ายอันน่าทึ่ง

แม้ ริตูจะรู้ดีว่า อิตซูกิไม่ใช่งานง่ายเพราะเป็นนักสู้เกมนอนคล้ายกันๆ แต่เธอก็ยังยืนยันว่าทักษะมวยปล้ำของเธอเหนือกว่าทักษะยูโดของ อิตซูกิอยู่ดี มิหน้ำซ้ำ ยังประกาศลั่นว่า อิตซูกิจะต้องประหลาดใจที่จะไม่ได้เห็น ริตูที่เก่งแค่มวยปล้ำ เพราะเธอยังมีของดีมากกว่านั้นที่อาจทำให้ อิตซูกิถึงขั้นโดนน็อก

ฉันสามารถตอบโต้ อิตซูกิด้วยการโจมตีในรูปแบบที่หลากหลายกว่า และคิดว่าทักษะมวยปล้ำของฉันเหนือกว่าทักษะยูโดของเธอ คุณจะได้เห็น ริตูโฟกาตที่แตกต่างออกไปในทุกๆ ครั้งที่ลงแข่ง

ฉันอยากเปลี่ยนความคิดของหลายๆคนที่คิดว่า ริตูโฟกาตมีดีแค่มวยปล้ำเท่านั้น ฉันอยากเอาชนะการแข่งขันครั้งนี้ด้วยวิธีที่ต่างออกไปเพื่อให้คู่ต่อสู้คนอื่นๆรู้ว่าฉันมีดีกว่านั้นเยอะถ้ามีโอกาส ฉันว่าจะลองปิดฉากไฟต์นี้ด้วยการน็อกเอาต์ดูสักทีเหมือนกัน

ซุปเปอร์บอน ยอดนักชกคิกบ็อกซิ่งตัวท็อปของไทย ลัดฟ้าถึงประเทศสิงคโปร์แล้ว โดยยังคงซ้อมอย่างหนัก ในช่วงสัปดาห์ก่อนแข่ง พร้อมเผย ก่อนบินได้ไปขอเคล็ดวิชาจาก แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม เจ้าของฉายา โคตรมวยสารคาม ติดอาวุธครบมือพร้อมปะทะ เปโตรเซียน ในศึกชิงแชมป์โลก วัน คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต 65.9 – 70.3 กก. ที่มี 8 ขุนพลนักชกระดับท็อปของโลกร่วมดวลกำปั้น ซึ่งนัดแรกจะมีขึ้นวันศุกร์ที่ 15 ต.ค.2564 นี้ ที่ประเทศสิงคโปร์

ซุปเปอร์บอน ยอดนักชกคิกบ็อกขวัญใจชาวไทยเปิดเผยว่า หลังจากได้เดินทางถึงประเทศสิงคโปร์ ยังคงฟิตซ้อมเต็มระบบ ซึ่งร่างกายตอนนี้ถือว่าฟิตเต็มร้อย

โดยการเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันครั้งนี้ นอกจาก เทรนเนอร์เก เทรนเนอร์คู่ใจที่ช่วยดูและเรื่องพละกำลังและความแข็งแกร่งให้ ซุเปอร์บอน เพื่อเตรียมพร้อมลงศึกใหญ่แล้ว ยังมี แสนชัย พี่ใหญ่แห่งค่าย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ผู้ได้ชื่อว่าเป็นนักมวยที่เก่งกาจที่สุดเมื่อเทียบแบบปอนด์ต่อปอนด์แห่งยุคมาช่วยเป็นคู่ซ้อมให้อีกด้วย โดย ซุปเปอร์บอน นั้นมี แสนชัย เป็นไอดอลในดวงใจมาตั้งแต่ไหนแต่ไรและนับถือเป็นรุ่นพี่ที่เคารพมาตลอด

แน่นอนว่าเมื่อมีโอกาสได้ประมือกับยอดมวยทั้งที ซุปเปอร์บอน ก็ไม่พลาดที่จะขอคำแนะนำดีๆ จากยอดมวยรุ่นพี่ไปพัฒนาตนเองในทุกครั้ง ซุปเปอร์บอน ยังเผยด้วยว่าเทคนิคการต่อสู้ขั้นเทพจากยอดมวย แสนชัย ที่เขานำไปปรับใช้นั้นพิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง และช่วยส่งเสริมเติมเต็มทักษะที่ตนมีอยู่เดิมให้มีลูกเล่นแพรวพราวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศึกที่ต้องเผชิญหน้ากับคิกบ็อกเซอร์ตัวพ่ออย่าง จอร์จิโอ เปโตรเซียน ในอีกไม่ช้านี้ ซุปเปอร์บอน ก็ตั้งใจจะนำเอาเทคนิคที่ได้เรียนรู้จาก แสนชัย มาปรับใช้ด้วยเช่นกัน มวย วันนี้