แสตมป์สุดแกร่ง จัดซับมิสชันอาร์มบาร์สยบมวยปล้ำสาวแกร่งแดนโรตี

แสตมป์สุดแกร่ง สาวไทยจากระยอง แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ โชว์เกมนอนเหนือความคาดหมาย จัดซับมิสชันอาร์มบาร์สยบมวยปล้ำสาวแกร่งแดนโรตีริตู โฟกาต ผงาดเป็นแชมป์ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ วัน แชมเปียนชิพ

การแข่งขันเมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 3 ธ.ค. 64 ระเบิดความมันที่ สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม โดยไฮไลต์อยู่ที่คู่รองของรายการระหว่าง แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ นักสู้สาวระยอง วัย 24 ปี เปิดศึกชิงเข็มขัด เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวตหญิง รอบชิงชนะเลิศ กับนักมวยปล้ำสาวชาวอินเดียริตู โฟกาต วัย 27 ปี

เปิดฉากยกแรก ตัวแม่มวยปล้ำริตู พุ่งเข้าหวังรวบ แสตมป์ ลงเล่นเกมนอนที่ถนัด แต่ แสตมป์ รู้ทันจึงสกัดด้วยเข่า และปักหลักใช้แม่ไม้มวยไทยทั้งเข่าและแข้งเป็นการตอบโต้ริตู ได้จังหวะเข้าจับขาไว้ได้แต่ แสตมป์ ก็แก้มเกมมาดี แสตมป์สุดแกร่ง ทำให้ริตู ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก

ยกสองริตู ได้จังหวะเข้ารวบและพา แสตมป์ ลงพื้นได้สำเร็จ โดยหวังจะใช้ท่าไม้ตาย ซ้ายคอนโทรล เผด็จศึก แต่กลับเป็นฝ่ายถูก แสตมป์ แก้ทางด้วยการใช้ขาสองข้างคีบคอไว้ก่อนที่ทั้งคู่จะยื้อยุดกัน จนเข้าทางให้ แสตมป์ สามารถล็อกริตู แสตมป์สุดแกร่ง ด้วยท่าอาร์มบาร์ (ล็อกแขน) จนริตู ต้องแท็บในนาทีที่ 2.14 ของยกที่สอง ส่งให้ แสตมป์ คว้าเข็มขัดเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ มาพาดบ่าได้สำเร็จ

หลังเกม แสตมป์ เผยว่ารู้สึกดีใจและเซอร์ไพรส์ที่ตัวเองสามารถเอาชนะ แสตมป์สุดแกร่ง ตัวแม่มวยปล้ำในท่าอาร์มบาร์ได้ ส่วนไฟต์ต่อไปที่จ่อคิวชิงบัลลังก์กับแชมป์โลกรุ่นอะตอมเวตคนปัจจุบันอย่าง แองเจลา ลี ตนจะพยายามซ้อมให้หนักกว่านี้เพื่อกระชากเข็มขัดมาให้ได้ ต้องดีกว่านี้

ด้านคู่เอก แชมป์โลกซูรินาม รีเกียน เออร์เซล ป้องกันตำแหน่งคิกบ็อกซิ่ง รุ่นไลต์เวต กับผู้ท้าชิงรัสเซีย อิสลาม มูร์ตาซาเอฟ

แสตมป์สุดแกร่ง

ผลเข็มขัดไม่เปลี่ยนเอว โดยฝ่ายผู้ท้าชิงออกอาวุธจะแจ้งในช่วงสองยกแรก ก่อนที่แชมป์จะเดินเครื่องไล่บี้ตามมาทัน และชนะคะแนนไปอย่างไม่เป็นเอกฉันท์

คู่เอกของรายการเป็นการต่อสู้ในพิกัดรุ่นแบนตั้มเวต ระหว่าง ร็อบ ฟ้อนต์ นักสู้อเมริกันจะพบกับ โชเซ่ อัลโด้ ตัวอันตรายชาวบราซิล ในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ ณ สังเวียน ลาส เวกัส สหรัฐอเมริกา

ยอดฝีมือชาวอเมริกันวัย 34 ปี เจ้าของสถิติชนะ 19 แพ้ 4 และไม่เคยแพ้ ให้ใคร ผลงานช่วงหลังถือว่าร้อนแรงชนะมา 4 ไฟต์รวด โดยไฟต์ล่าสุดไล่อัดเอาชนะคะแนน โคดี้ การ์แบรนดท์ ไปได้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งคู่ต่อกรของ ฟ้อนต์ มีดีกรีเป็นถึงอดีตแชมป์โลกนั่นก็คือ โชเซ่ อัลโด้ นักสู้ชาวบราซิลวัย 35 ปี

สำหรับ มีสถิติชนะ 30 แพ้ 7 และเป็นชนะ ถึง 17 ครั้ง โดยฟอร์มช่วงหลังกลับสู่ความร้อนแรงอีกครั้งด้วยการชนะคะแนน 2 ไฟต์ติดต่อกันเหนือ เปโดร มูนญอซ และ มาร์ลอน เวร่า ทั้งในปี 2020-21 ที่ผ่านมา

รองคู่เอกเป็นการต่อสู้ในพิกัดรุ่นไลต์เวตระหว่าง แบรด ริดเดลล์ จอมระห่ำชาวนิวซีแลนด์วัย 30 ปี เจ้าของสถิติชนะ 10 แพ้ 1 และไม่เคยแพ้ จะขึ้นสังเวียนมาดวลกับ ราฟาเอล ฟิซิเยฟ คู่ปรับจากคีร์กีซสถานวัย 28 ปี ที่มีสถิติเหมือนกันเป๊ะที่ ชนะ 10 แพ้ 1 แถมยังชนะมาแล้ว 4 ไฟต์ติดต่อกันทั้งคู่ด้วย 

ถือเป็นคู่รักต่างวัยขวัญใจคนวงการหมัดมวย สำหรับ เพชฌฆาตหน้าหยก สามารถ พยัคฆ์อรุณ อดีตกำปั้นแชมป์โลกวัย 58 ปี ขวัญใจชาวไทย กับ น้องมอส ธิดารา ที่คบหาดูใจกันมานานกว่า 3 ปีแล้ว

ล่าสุด สามารถ และ น้องมอส ได้มีโอกาสเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษ มาเปิดเรื่องราวในชีวิตช่วงชกมวยที่รุ่งเรืองสุดขีด รวมไปถึงความรักที่อายุเป็นเพียงตัวเลขแบบทุกซอกทุกมุม

หนูทั้งหึง ทั้งหวง คือ รักค่ะ รักมาก คือเวลาพี่เขาสอนมวยสาวๆเสร็จ หมดยก หนูก็ไปเรียก ที่รักๆ หันกลับมาก็ถีบเลย ของเขาน่ะคะ น้องมอสกล่าวในรายการ

ด้าน สามารถ เองก็เอ็นดูและหวงแฟนสาวคนสวยเช่นกัน กล่าวเสริมว่า เวลาออกไปไหนมาไหน เราไม่อยากให้คนอื่นมอง แต่ถ้าคนอื่นเขาแต่งมา ถามว่าเราอยากมองไหม เราไม่อยากมอง แต่เขาแต่งให้เรามอง นี่ก็เหมือนกัน ถ้าเขาแต่งโป๊เราก็จะบอกให้เขาไปเปลี่ยน

น้องมอสดูแลเราดีมากๆ ตัดเล็บ ตัดผม หาของให้ทาน เขาจะดูแลเราทุกอย่างเลย เขาก็จะให้เรานอนก่อน เขาถึงจะไปทำอย่างอื่น พอขึ้นบ้านก็จะเดินตามหลังเรา เพราะว่ากลัวเราล้ม สามารถ กล่าวในรายการ มวย วันนี้